ปัญหาที่พบบ่อยในการตอบคำถามสัมภาษณ์งาน (ตอนที่1)
พอดีใกล้จะสิ้นปีละ มานั่งคิดบทความที่อยากแชร์ให้น้องๆที่อยากเข้าวงการยาอ่านกันสักเล็กน้อย มาเริ่มตอนแรกกันนะครับ
ปัญหาที่พบบ่อย (ตอนที่1)
เนื่องจาก 2 ปีที่มาร่วมทีมกับทาง Pharmconnection ได้มีการจัดสัมมนาเทคนิคการสัมภาษณ์เพื่อเข้าวงการยามา 5 ครั้ง ไม่รวมถูกเชิญไปพูดในอีกหลายๆที่ ปัญหาที่ผมพบบ่อยคือ
1.ผู้สัมภาษณ์ไม่สามารถแยกระหว่างข้อดีและจุดแข็ง ของตัวเองได้
ก่อนตอบคำถามนี้ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า
ข้อแตกต่างระหว่างจุดแข็ง กับ ข้อดี คืออะไร
เอาง่ายๆแบบไม่เน้นวิชาการซับซ้อนมากมาย
ข้อดี เป็น Set ใหญ่ครับ ข้อดีจะรวม สิ่งที่ดี(หรือคิดว่าดีของเรา)ทั้งหมด ไม่ว่าจะ ชอบช่วยเหลือคน มีน้ำใจ พูดเก่ง มีความมั่นใจ สวย แต่งตัวเก่ง ชอบเดินทาง เป็นต้น
จุดแข็ง เป็น Subset ของ ข้อดี ครับ
ความแตกต่างที่สำคัญคือ
จุดแข็งคือสิ่งที่เป็นข้อดีของคุณที่มีประโยชน์ต่องานที่คุณกำลังจะไปสมัคร เช่น คุณอาจจะมีข้อดีคือ ทำอาหารเก่ง แต่ ข้อดีข้อนี้ไม่ถือเป็นจุดแข็งในการไปสมัครงาน ผู้แทนยา เป็นต้นครับ
ปัญหาที่ตามมาคือ ปกติผู้สัมภาษณ์(Manager)ทั้งหลาย ยังมักจะถามผู้ถูกสัมภาษณ์ ว่าลองบอกข้อดีของคุณมาสิ ด้วยคำถามนี้ทำให้ผู้ถูกสัมภาษณ์จะเริ่มสับสนในการตอบ เพราะเป็นธรรมชาติของคนเราที่มักจะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย(???) ทำให้หลายคนเลือกข้อดีมาตอบแบบไม่ตรงใจผู้สัมภาษณ์ หรือ ตอบแบบ คำขวัญวันเด็ก เช่น อดทน มีวินัย ร่างเริง มีความรับผิดชอบ เป็นต้น ซึ่งคำตอบเหล่านี้ทำให้ตัวผู้ถูกสัมภาษณ์ไม่มีจุดเด่นให้จดจำ อย่าลืมว่าในการนัดสัมภาษณ์แต่ละครั้ง ผู้สัมภาษณ์มักจะนัดเด็กมาสัมภาษณ์ไม่น้อยกว่า 5 คนแน่นอน(ผมเคยนัดสัมภาษณ์ วันเดียว 30 คน ซึ่งไม่ดีคือ ผมแทบจะจดจำคนที่ตอบไม่มีข้อแตกต่างได้เลย) เพราะฉะนั้นในมุมของผู้ถูกสัมภาษณ์ควรต้องตอบให้ผู้สัมภาษณ์จดจำในสิ่งที่ควรจดจำได้ในเวลาอันสั้นที่สุดครับ อย่าพูดน้ำเยอะ Focusในสิ่งที่เป็นจุดแข็งของเราให้มากที่สุด
พอมองเห็นภาพไหมครับ ครั้งหน้าเวลาไปสัมภาษณ์ที่ไหนตั้งสติดีๆก่อนตอบให้ดีนะครับ ฝึกตอบกับเองไว้เรื่อยๆนะครับ รับรองว่าโดนถามแน่นอนครับ
ปัญหาที่พบบ่อย (ตอนที่1)
เนื่องจาก 2 ปีที่มาร่วมทีมกับทาง Pharmconnection ได้มีการจัดสัมมนาเทคนิคการสัมภาษณ์เพื่อเข้าวงการยามา 5 ครั้ง ไม่รวมถูกเชิญไปพูดในอีกหลายๆที่ ปัญหาที่ผมพบบ่อยคือ
1.ผู้สัมภาษณ์ไม่สามารถแยกระหว่างข้อดีและจุดแข็ง ของตัวเองได้
ก่อนตอบคำถามนี้ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนว่า
ข้อแตกต่างระหว่างจุดแข็ง กับ ข้อดี คืออะไร
เอาง่ายๆแบบไม่เน้นวิชาการซับซ้อนมากมาย
ข้อดี เป็น Set ใหญ่ครับ ข้อดีจะรวม สิ่งที่ดี(หรือคิดว่าดีของเรา)ทั้งหมด ไม่ว่าจะ ชอบช่วยเหลือคน มีน้ำใจ พูดเก่ง มีความมั่นใจ สวย แต่งตัวเก่ง ชอบเดินทาง เป็นต้น
จุดแข็ง เป็น Subset ของ ข้อดี ครับ
ความแตกต่างที่สำคัญคือ
จุดแข็งคือสิ่งที่เป็นข้อดีของคุณที่มีประโยชน์ต่องานที่คุณกำลังจะไปสมัคร เช่น คุณอาจจะมีข้อดีคือ ทำอาหารเก่ง แต่ ข้อดีข้อนี้ไม่ถือเป็นจุดแข็งในการไปสมัครงาน ผู้แทนยา เป็นต้นครับ
ปัญหาที่ตามมาคือ ปกติผู้สัมภาษณ์(Manager)ทั้งหลาย ยังมักจะถามผู้ถูกสัมภาษณ์ ว่าลองบอกข้อดีของคุณมาสิ ด้วยคำถามนี้ทำให้ผู้ถูกสัมภาษณ์จะเริ่มสับสนในการตอบ เพราะเป็นธรรมชาติของคนเราที่มักจะมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย(???) ทำให้หลายคนเลือกข้อดีมาตอบแบบไม่ตรงใจผู้สัมภาษณ์ หรือ ตอบแบบ คำขวัญวันเด็ก เช่น อดทน มีวินัย ร่างเริง มีความรับผิดชอบ เป็นต้น ซึ่งคำตอบเหล่านี้ทำให้ตัวผู้ถูกสัมภาษณ์ไม่มีจุดเด่นให้จดจำ อย่าลืมว่าในการนัดสัมภาษณ์แต่ละครั้ง ผู้สัมภาษณ์มักจะนัดเด็กมาสัมภาษณ์ไม่น้อยกว่า 5 คนแน่นอน(ผมเคยนัดสัมภาษณ์ วันเดียว 30 คน ซึ่งไม่ดีคือ ผมแทบจะจดจำคนที่ตอบไม่มีข้อแตกต่างได้เลย) เพราะฉะนั้นในมุมของผู้ถูกสัมภาษณ์ควรต้องตอบให้ผู้สัมภาษณ์จดจำในสิ่งที่ควรจดจำได้ในเวลาอันสั้นที่สุดครับ อย่าพูดน้ำเยอะ Focusในสิ่งที่เป็นจุดแข็งของเราให้มากที่สุด
พอมองเห็นภาพไหมครับ ครั้งหน้าเวลาไปสัมภาษณ์ที่ไหนตั้งสติดีๆก่อนตอบให้ดีนะครับ ฝึกตอบกับเองไว้เรื่อยๆนะครับ รับรองว่าโดนถามแน่นอนครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น