ประวัติการพัฒนายา Anti-Biotic
ยากลุ่มนึงที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี มีการค้นคว้ามาอย่างยาวนานคือยากลุ่ม Anti-Biotic
วันนี้เรามาดูประวัติการพัฒนายาในกลุ่มนี้ทุกตัวกันแบบคร่าวๆครับ
โดย Ehrlich ปี 1910 ข้อบ่งใช้ ใช้ในโรค syphilis
ต่อมาในปี 1935 มีการสังเคราะห์ sulfonamides
โดย Domagk และ คณะ
ในปี 1928 Fleming ค้นพบ penicillin ซึ่งเกิดจากสารตัวนึงใน
รา Penicillium ผลิตออกมาทไให้เชื้อStaphylococcus aureus
แต่ได้นำมาใช้ในการรักษาก็รอไปจนถึงปี 1940
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ในปี 1944, ได้มีการค้นพบ ยา streptomycin
(เป็นกลุ่มaminoglycoside)ถูกค้นพบจาก ดินที่มีเชื้อ
ซึ่งยา Anti-Biotic กลุ่ม chloramphenicol ,
ปี 1956 ค้นพบ Vancomycin
ในปี 1962 ก็ได้มีการสังเคราะห์ Anti - Biotic หลายตัวเช่น
ปี 1960 มีการพัฒนายา Cephems
ปี 1967 พัฒนายา first-generation cephems
ปี 1974 พัฒนายา second-generation cephems
ปี 1980 พัฒนายา third-generation cephems
ปี 1983 พัฒนายา carbapenem
ปี 1986 พัฒนายา new quinolones
จนมาถึงปัจจุบันนี้ มียา Anti-Biotic หลายกลุ่มมากที่ถูกพัฒนาออกมาเพื่อรักษาคนไข้ แต่มีสิ่งนึงที่พัฒนาตามมาด้วยตลอดคือ เชื้อโรคก็มีการพัฒนาตัวเองให้ทนต่อยาได้ดียิ่งขึ้น จนปัจจุบันนี้ปัญหาเชื้อดื้อยาถือว่เป็นปัญหาในระบบสาธารณสุขในหลายประเทศโดยประเทศในเขตร้อนชื้นมักจะพบเชื้อ Gram Negative มากกว่า Gram Positive โดยทางฝั่งเมืองหนาวจะพบปัญหาเชื้อดื้อยา Gram Positive มากกว่านั้นเอง ปัญหาคือ ประเทศที่เป็นผู้คิดค้นวิจัยคือประเทศฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นเมืองหนาว ก็จะพัฒนายาAnti-Biotic ที่ฆ่าเชื้อโรค Gram Positive เป็นหลัก ทำให้ตอนนี้ปัญหาเชื้อดื้อยาในประเทศร้อนชื้น นับไทยไปด้วย ถือเป็นปัญหาที่ค่อนข้างรุนแรงทีเดียว ซึ่งปัญหาที่ทำให้เกิดเชื้อดื้อยามีหลายสาเหตุมาก เรียกว่าเละทั้งระบบ ตั้งแต่ แพทย์สั่งจ่ายยาฆ่าเชื้อโดยไม่รอผลเพาะเชื้อ ร้านขายยาให้ยาฆ่าเชื้อแก่คนไข้โดยไม่จำเป็น ในฟาร์มปศุสัตว์ก็ใช้ยาฆ่าเชื้อผสมอาหารให้สัตว์กิน ตอนนี้ก็เริ่มมีการรณรงค์ การใช้ยาฆ่าเชื้อแบบสมเหตุสมผล (RDU)
ในเมืองไทยกันแล้วนะครับ
ใช้ยาฆ่าเชื้อเมื่อจำเป็น
ขอบคุณครับ
ภก.ภูริทัต ว่องพุฒิพงศ์
อ้างอิงจาก
JMAJ, March/April 2009
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น